against the god

against the god ทุกคนต่างตามล่าเขาซึ่งเป็นผู้ครอบครองของวิเศษ เขาจึงกลืนมันแล้วกระโจนผาจบชีวิตเพื่อไม่ให้ผู้ใดได้มันไป หลังจากนั้นเขาพบว่าได้มาอยู่ในร่างผู้ชายที่มีชื่อเดียวกับเขาในอีกโลก

against the god โดยมีความจำของทั้งสองชาติภพ ทั้งยังของดีเลิศชิ้นนั้นยังประจำตัวเขามาด้วย แต่ทว่าในร่างใหม่นี้เขาเป็นเพียงคนชีพจรทุพพลภาพที่สู้ไม่ได้แม้แต่เด็กสิบขวบ แต่กลับมีบุญบารมีทางนารีคอยช่วยเหลือแล้วก็ชะตาชีวิตที่พิลึกทำให้เขาได้ครอบครองพลังอำนาจซึ่งสามารถกลับฟ้าสะเทือนดินจำต้องบอกว่าหยุนดำเนินชีวิต 3 โลก
1. ลมหายใจฟ้าแล้วโดนวางยาตาย
2. ก้อนเมฆครามเป็นลูกกำพร้า ถ้าถามว่าชาตินี้เป็นลูกคนไหนกันแน่ราวกับผู้เขียนกล่าวว่าเกิดขึ้นมาใหม่เป็นทารกเลยจัดว่าพ่อแม่ก็คนเดิมที่อาศัยแดนซาตาน ทั้งนี้ ณ ตอนนี้ก็ไม่มีย้อนไปชาตินี้เท่าไรนักรายละเอียดก็มีเท่าที่คุณอ่านมานั้นล่ะ
3. โลกปัจจุบันที่ย้อนกลับมาตอนโดนวางยาสรุป เรื่อง 3 โลกของหยุนก็ไม่มีอะไรลึกลับ หรือขั้นต่ำก็ยังไม่มีอะไรให้ว้าวส่วนเนื้อหาปัจจุบันหยุนไปแดนเทวดา อ่อเกริ่นก่อนแดนเทวดามี 4 ทิศ

อุดร ประจิม ทักษิน บูรพาทิศทิศเหนือ เป็นที่อยู่ของพวกมนุษย์ที่ใช้พลังของมาร โดนทิศที่เหลือรังเกลียดชังเจอหน้าไล่ฆ่าโดยทันทีประจิม เป็นทิศที่พวกมีเชื้อสายมังกรอาศัย กล้าแกร่งที่สุดใน 4 ทิศ มี 4 จักรพรรดิ และก็เหนือกว่านั้นคือกษัตริย์มังกร บุคคลที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในแดนเทวดา เอ็นดูหยุยงนเช่อมากๆเพราะมีความเห็นว่ามีสายโลหิตมังกรบรรพกาลแต่มันไม่รู่นะว่ามังกรอะไรทราบเพียงแค่ว่าเก่าแก่ มีเมียสวยติดอันดับหญิงงามของดินแดนเทพ คือดินแดนเทวดาเนี้ยจะมีหญิงงามสุดๆอยู่ 2 คน 1.ราชินีมังกรเสินซี (ความประพฤติดีคนที่สามของหยุยงน) 2. เชียนเย่หยิงเอ๋อ คนที่ทำให้พี่จัสมินตายทักษิน เดี๋ยวนี้โผล่มาเพียงแค่ 2 พระราชาธิราช หนึ่งในนั้นคือจักรพัตราธิราชสมุทรแดนใต้ เป็นผู้ที่วางยาจัสมินจนกระทั่งปางตายจนจะต้องมาหาไข่มุกแก้พิษ

หลงเชียนเย่หยิงเอ๋อหัวปรักหัวปรำบูรพาทิศเป็นด้านเนื้อหลักหยุนจะอยู่ด้านนี้ ทิศนี้จะมี 4 แดนศักสิทดูแล
1.ดินแดนเทวดาปรมันต์ ดินแดนชั้น 1 ของทิศนี้ เชียนเย่หยิงเอ๋อก็เป็นบุตรสาวของแรงวภิโลกแดนนี้ ดินแดนนี้มีทรัพย์สมบัติสรวงสวรรค์ด้วย แม้กระนั้นปิดไม่ให้ใครทราบนั่นคือหีบศพนิรัน ที่ทำให้ไม่มีวันตายถ้าเกิดไม่โดนฆ่าแม้กระนั้นปิดไว้ให้คนใดกันแน่รู้กลัวโดนโด้ของ
2.ดินแดนฟ้าอนันตกาล จักรพรรดิศักสิทดินแดนนี้ยุติธรรมที่สุดหนึ่งในต้นขาใหญ่ที่หยุยงนเกาะไว้คุ้มกะลาหัว มีมุกฟ้าอนันตกาลไว้ถือครอง
3.แดนเทพดารา แดนของพ่อจัสมิน เดี๋ยวนี้สถาการณ์ไม่ดี นิยายแปล จีน เนื่องจากว่าคิดจะบูชาจัสมินกับน้องจัสมินเพื่อยกระดับพลังของพ่อจัสมิน ท้ายที่สุดหยุนมาช่วยแต่ก็โดนฆ่าตาย ทำให้จัสมินโกรธแล้วใช้กงล้อเด็กอันธพาลที่ได้มา ทำลายดาวทิ้งบวกเทพยดาราตายกันเยอะ
4.แดนเทวดาจันทรา จักรพัตราธิราชคนก่อนตายห่าไปแล้วเพราะไปจะไปหยุดวงล้อนรก เลยโดนจัสมินเฉือนไป ก่อนตายมอบพลังให้ชิงเยว่กลายเป็นจักรพรรดินีศักสิทคนตอนนี้ ที่ให้ชิงเยว่เนื่องจากชิงเยว่มีกายห่าไรสักอย่างที่ดีเยี่ยมรองรับได้ทุกพลัง ปัจจุบันยอดเยี่ยมในต้นขาใหญ่ให้หยุยงนเกาะ

 

against the god
ตอน 900 อีกไม่นานหยุยงนเช่อก็จะไปดินแดนเทวดาพอหยุนเช่อไปแดนเทวดา ก็เริ่มวนลูปใหม่ เป็นลูกกระจ๊อก โดนคนดูถูก เข้าทดสอบ ชนะ ไต่เต้าขึ้นไป ฝึกหัดวิชา หาของอัพพลัง ได้หญิงคนใหม่ๆดูดพลังหยินบริสุทธ์เค้ามา เก่งขึ้น ไปแข่งขันเวทีใหญ่ขึ้น โดนเหยียดหยาม ชนะการประลองอยู่ลูปนี้ไปอีกราว 300 ตอนครับเมื่อไหร่ที่หยุยงนอยู่ในสถานการณ์ตรากตรำ ก็ได้หญิงช่วยอยู่ร่ำไปก่อนจะโดนฆ่าตาย เนื่องจากว่าไปช่วยจัสมิน แต่ได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง

หยุนเช่อมี 3 ชาติภพ

1.เซียวเช่อ มีกระจกติดตัวจากบรรพบุรุษ ตาย -> ไปกำเนิดในดินแดนก้อนเมฆคราม กระจกที่ติดตัวแทรกแทรกระยะทางส่งหยุยงนเช่อไปอยู่โน่น พ่อและแม่แท้ๆเป็นคนเดิม
2.หยุยงนเช่อก้อนเมฆคราม โตขึ้นได้รับมุกพิษสวรรค์ + กระจก ตาย -> กระจกแทรกแทรงเวลาอีกรอบ ไปเกิดในร่างเซียวเช่อ ที่จะต้องเป็นใน time 1 แต่ว่าครั้งนี้รอดตายเพราะกระจกดึงเอามุกพิษสวรรค์ติดตัวหยุนมาด้วย
3.คือหยุนเช่อใน timeline ปัจจุบันระดับพลังของ ผนึกสรวงสวรรค์ อธิบายได้แจ่มแจ้งกว่าจำนวนมากอะ ว่าแต่ว่าละขั้นเป็นอย่างไร มีที่มาอย่างไร มีผลยังไง ทำเช่นไรถึงจะได้พลังในแต่ละขั้นมานิยายพลังภายในมันก็จำต้องย้ำไปที่พลังภายในอย่างนี้แหละ ไม่ใช่มุ่งเน้นแม้กระนั้นพวกเทพ มาร อสุรกายเนื้อเรื่องก็ไม่จำเจอยู่เพียงแค่ฝึกฝนพลัง กับ ไล่ฆ่าศัตรู มีทั้งยังเข้าสำนักปรุงยา ได้ปรุงยามุ่งมั่น วิชาความรู้ทางด้านปรุงยาไม่ใช่มีไว้แค่ตกแต่งเรื่องทำให้ทราบว่าเม็ดยาเรื่องนี้มีคนปรุงนะ ปรุงยังไง ไม่ใช่อยู่ๆก็เสกมา หรือหล่นมาจากฟ้า ได้มาจากไหนก็ไม่เคยรู้แต่ละระดับของการปรุงยาก็มีรายละเอียด มีที่มาที่ไปมีเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ ได้ไปใช้ชีวิตเป็นลูกของบุคคลอื่นอันที่จริงแล้วพวกทดลองอื่นๆก็ไม่ใช่ว่ามีดีแค่พลัง หรือดวงก็จะผ่านได้ จำเป็นต้องใช้สมอง ใช้ทักษะด้านอื่นๆด้วย
กลรักดอกท้อ สีหน้าของเจียงเซ่าเหิงดำคล้ำลงในบัดดล โชคร้ายที่เวลานี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงไปทั้งยังร่าง ได้แต่ให้นางประคับประคองไปตามใจชอบ
อวี๋เกลอเถาแลบลิ้น “นี่จะโทษข้ามิได้! ใครกันแน่ใช้ให้เจ้ามาถึงก็หน้าถมึงทึง ปราศจากความเป็นมิตร ทำเอาเรามีความรู้สึกว่าเจ้าจะมาจับเรา ถ้าเกิดบอกเร็วหน่อยว่าเจ้าเป็นบุรุษเอวขาด เราก็คงจะไม่ทำแบบงี้ เฮ้อ! เสียดายก็แม้กระนั้นยาของเรา” นางในยามนี้ก็เป็นดังนกตื่นธนู*สีหน้าท่าทางของเจียงเซ่าเหิงคร่ำเคร่ง ที่จริงนางเสียดายยาของนาง หาได้ละอายแก่ใจที่วางยาพิษผิดคนไม่
“เจียงเซ่าเหิง!” เขากัดฟันบอก
“หา?”
“ข้ามีนามว่าเจียงเซ่าเหิง!”นางรีบฉีกยิ้มเอ่ยว่า “จอมยุทธ์เจียงเซ่าเหิง เลื่อมใสๆ”เห็นได้ชัดว่าเป็นถ้อยคำพิธีเพื่อกลบเกลื่อนแค่นั้น เจียงเซ่าเหิงนึกในใจว่าแม้เขาไม่บอกนางว่าเขาเป็นผู้ชายเอวขาด ไม่ทราบดีว่าข้างหลังถูกทำให้สลบไสลไปแล้วสตรีนางนี้จะจัดแจงเขาอย่างไร
“เจ้าล่ะ”
“ข้าอะไร”
“เจ้ายังไม่บอกนามของเจ้า”
“เจ้าคิดจะจำเป็นความโกรธแค้นหรือคิดจะทดแทนบุญคุณ?”หนังตาของเจียงเซ่าเหิตระหนี่ระตุกคราหนึ่ง “เราไม่ได้อยากต้องการค้างหนี้บุญคุณคนไหน”อ๋อ? ที่แท้มาก็เพื่อทดแทนบุญคุณ
“บอกแล้วว่าไม่ต้องเอ่ยขอบคุณมากในบุญคุณ ไม่ต้องคำนึงถึง” นางสั่นศีรษะอย่างมีมาด แสร้งตีสีหน้าว่าทำดีโดยไม่อยากให้ใครล่วงรู้ ทำเอาเจียงเซ่าเหิงอยากบีบคอนางให้ตายนัก ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาผู้ใดเป็นคนพูดว่าที่ช่วยเขาก็เพื่อสั่งสมกุศลกรรม
“ชื่อ” น้ำเสียงของเขาอันตรายยิ่งขึ้น
“อย่าโกรธๆเราชื่ออวี๋เกลอเถา”
“อายุเท่าไร ออกเรือนหรือยัง”
“ถามมากมายขนาดนั้นไปทำไม จะสอบสวนเรารึ”เจียงเซ่าเหิงไม่ตอบ เอาแต่มองดูแววตาลึกล้ำน่าค้นหาของนางเพียงเท่านั้น หลังจากรู้สึกถึงความคุ้นเคยจากสตรีนางนี้แล้ว เขาก็ต้องการทราบฐานะที่แท้จริงของนาง

อวี๋เกลอเถาคิดแต่เพียงแจ้งชื่อปลอมให้เขาทราบ เรื่องอื่นนางไม่ได้อยากต้องการเล่ามากมายไปกว่านั้น ด้วยเหตุว่าตอนนี้นางยังถูกเหยียนจิ่วล่าสังหารอยู่ จำเป็นจะต้องระวังระอย่างยิ่งยวดยามที่นางประคับประคองเจียงเซ่าเหิงขึ้นข้างบน เสียงครหานินทาดังแว่วมาจากรอบๆรอบๆไม่น้อย หญิงสาวทั้งหลายแหล่ต่างฮึดฮัดด้วยเห็นว่าช่างไม่ยุติธรรม นึกในใจว่าชายหล่อเหล่าถึงเพียงนี้เหตุใดก็เลยถูกหญิงไม่มีเกลือ* ลวงล่อเอาได้ ยามที่ผู้ชายผู้นี้ก้าวเข้าสู่ร้าน พวกนางต่างลอบชำเลืองตา ตอนนี้มีความเห็นว่าไม่เฉพาะแต่เขาไม่ผลักสตรีนางนั้นออก ซ้ำยังยื่นมือวางไว้บนบ่าของนางอีก ต่างคนต่างขึงตา กัดริมฝีปาก อาฆาตแค้นอยู่ในใจอย่างเหลือประมาณ

* นกตื่นธนู เป็นสำนวนจีน ใช้เปรียบเทียบกับผู้ที่เคยผ่านเหตุที่ไม่ดีมา แล้วก็ภายหลังเมื่อมีอะไรมากมายระทบนิดหน่อยก็จะตื่นตกใจอย่างมาก
* หญิงไร้เกลือ คือหญิงเค้าหน้าอัปลักษณ์ คำเรียกนี้มีที่มาจากหนึ่งในสี่หญิงน่าเกลียดมีชื่อว่าควรหลีชุน (แซ่ต้องหลี นามชุน) ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองอู๋เหยียน(ไร้เกลือ) สมัยจ้านกั๋ว แต่นางเป็นคนฉลาดมาก พร้อมทั้งความรู้ความเข้าใจ อายุสี่สิบปีแล้วยังมิได้แต่งงาน วันหนึ่งนางเสนอภัยของชาติสี่ประการเตือนฉีเซวียนหวัง ได้รับการตั้งจากฉีเซวียนหวังให้เป็นพระชายา

เมื่อนางเอกไม่สวยในสายตาพระเอกเมื่อพระราชาธิราชน้อย ‘ต้วนอวิ๋นจั้ง’ ถูกคาดคั้นให้แต่งงานกับ ‘หลิวจินเฟิ่ง’ หรือเฮยพั่ง ลูกสาวของเวยกั๋วกง ข้างชายย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา

ก็ลูกสาวของเวยกั๋วกงผู้นี้นั้นช่างห่างไกลจากความงดงาม เพราะเหตุว่ารูปร่างของนางนั้นอ้วนดำ ไม่ว่าใครเห็นก็ล้วนตกตะลึง ไม่คิดว่าอัครมเหสีจะมีรูปร่างอ้วนดำเช่นนี้ และก็ด้วยความที่ข้างหญิงเป็นผู้ที่มองโลกแง่บวก ก็เลยชอบเกิดเหตุปั่นป่วนๆฮาๆเกิดขึ้นเสมอ ทั้งๆที่นางตั้งอกตั้งใจจะกวนจักรพรรดิ และไม่ได้ตั้งมั่นจะกวน แม้กระนั้นเรื่องนี้ไม่ได้มีเรื่องกระหนุงกระหนิงหัวใจเพียงแค่นั้น ด้วยเหตุว่ายังมีเรื่องป่วนปั่นๆเกิดขึ้นตามมา เมื่อใครซักคนกำลังมานะหาทางจะควบคุมยึดอำนาจของจักรพัตราธิราชอยู่ งานนี้เรื่องบนเตียงก็วุ่นวาย เรื่องการเมืองยังตกอยู่ในอันตรายไม่แพ้กันอีกส่องโมเมนต์ครั้งแรกที่ได้พบกันองค์จักรพัตราธิราชทรงสะลึมสะลือลุกประทับนั่ง ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือถ้วยกระเบื้องเขียวคราม ท่านทรงคว้าคว้ามันไว้

ก่อนที่จะกรอกเข้าพระโอษฐ์รวดเดียวทำให้ทรงรู้สึกโปร่งโล่งเตียนทั่วทั้งยังพระวรกายมีมือข้างหนึ่งยื่นเข้ามาแล้วจับถ้วยกระเบื้องออกจากพระหัตถ์องค์พระราชาธิราชทรงรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งไม่ถูกจำต้อง ท่านทรงมองดูมองมือดำๆอวบนั้น ก่อนที่จะไล่สายพระเนตรขึ้นบน ขึ้นบนถัดไปอีก จนกระทั่งบริเวณใบหน้ากลมดำปรากฏขึ้นตรงหน้า ดวงตาแวววับเป็นประกายนั้นเหมือนกับนัยน์ตาของลูกกวางที่ล่าได้ในลานล่าสัตว์องค์พระราชาธิราชทรงสำลักน้ำอยู่ประเดี๋ยวเดียว “เจ้าเป็นคนไหนกันแน่”วังหลวงมีนางกำนัลที่อีกทั้งอ้วนทั้งดำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เครื่องแต่งกายนางสวมนั่นมันชุดอะไร เพราะอะไรถึงได้แดงราวกับพริกทอดเช่นนั้น

“หม่อมฉันคืออัครมเหสีของฝ่าบาทเพคะ” จินเฟิ่งยิ้มอย่างเป็นมิตร
“อะไรนะ!?” องค์ พระราชา ธิราช ทรง มีความคิด ว่าตนเองหูขื่นไป “อัค…อัครมเหสีของเราคือบุตรีของเวยกั๋วกง” น้ำเสียงขององค์จักรพัตราธิราชสั่นระริก ทรงลืม ความสง่า น่ายำเกรง ของ พระพระราชาธิราช ไปจนถึงสิ้นจินเฟิ่งไม่คิดแปลกใจ “หม่อมฉันก็ คือ บุตรีของเวยกั๋วกง”เพราะเหตุใด ถึงจำต้องอ่านหัว ข้อนี้ ความสนุกสนานร่าเริง ของ เรื่องจะถูกเล่า ผ่านอีกทั้งผู้ แสดงนำชาย และ ก็นางเอก ไม่ใช่ แค่ผ่านนางเอกฝ่ายเดียว เราจะ เห็นการเจริญเติบโต ทางความคิด ของ ผู้แสดง รวมทั้ง ความรู้สึกของแต่ละนักแสดง แน่ๆว่า พวกเราจะให้มองเห็น วิวัฒนาการของพวกเขา เยอะขึ้นเรื่อยๆ นอกนั้น ยังสอดแทรก ด้วยอารมณ์ขัน ที่ซุกซ่อนอยู่ ในความนึกคิด ของ ตัวละครหลักๆถึงแม้โทนเรื่องอาจจะดูแคลน อ่านง่าย แต่ว่าก็มีเงื่อนที่บังคับแฝงเร้นไว้ให้เชิญชวนติดตามอยู่เช่นเดียวกัน แถมยังเดาได้ยากเหตุว่าจะจบแบบไหน จุดแข็งสำคัญที่สุดเลยอีกอย่าง คงเป็นที่ตัวนางเอกด้วยนี่แหละ ด้วยเหตุว่านางไม่ใช่คนสวยมาก ไหนจะรับประทานเก่งอีกต่างหาก แล้วนางจะมีผลให้ดารานำชายหลงเสน่ห์ได้ยังไงกันล่ะเนี่ย กลับหน้าหลัก