หนัง the covenant โดยประสบการณ์ส่วนตัวตั้งแต่จำความได้การได้ยินชื่อ สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ในโฆษณาภาพยนตร์เรื่องไหน โดยการรับรู้ส่วนตัวเป็นต้องเป็นหนังทุนสร้างสูง หนังดูสนุกสนาน และจากนั้นก็แน่นอนเป็นฉายา “พ่อมดที่ฮอลลีวูด” ที่รังสรรค์ภาพจินตนาการอันแสนดียอด พรีเซ็นท์เรื่องราวเสี่ยงภัยอันไม่มีขอบเขตตั้งแต่นักโบราณคดีผู้ตามล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าไปจนกว่ากำเนิดใหม่ไดโนเสาร์
แล้วก็แน่นอนเมื่อแก่ขึ้น วิชาความรู้ด้านภาพยนตร์ เริ่มพอกพูนก็ได้เรียนรู้ “กระบวนการ” ที่พ่อมดท่านนี้ใช้ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้องถ่ายสำหรับรูป ทางพิเศษหรือจนกระทั่งคณะทำงานคู่บุญที่พาภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องแปลงเป็นตำนานหนังดีที่ไ่ม่มีวันหมดอายุ ทำให้ท่านทรงอำนาจไม่แพ้ Ronan อีกด้วยแต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ชมอย่างผมและจากนั้นก็คนใดกันแน่หลายต่อหลายคนยังไม่ทราบและไม่สบโอกาสได้รู้ก็คือเรื่องของตัวตน
สิ่งจูงใจและก็ชีวิตเบื้องหลังความเก่งการเล่าเรื่องอันแสนแปลกทั้งหลาย หนัง the covenant รวมทั้งเป็น ‘The Fabelmans’ ที่สปีลเบิร์กเขียนบทร่วมกับโทนี ปะทุชเนอร์ (Tony Kushner) หนึ่งในคนเขียนที่สปีลเบิร์กร่วมงานมาตั้งแต่ ‘Munich’ จนกระทั่ง ‘West Side Story’ ที่ได้เข้าชิงออสการ์ปีก่อนมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้แรงกระตุ้นจากชีวิตส่วนตัวของสปีลเบิร์กเอง
รีวิว หนัง the covenant กระตุกต่อมสละชีวิต น้ำตาแตกแน่ๆ
รวมทั้งการแสดงอันยอดเยี่ยมของกองกองทัพดารามากไม่น้อยเลยทีเดียวความรู้ความเข้าใจที่แม้บางคนจะเผยตัวเพียงแต่ไม่กี่ฉาก ถึงแม้ก็สร้างภาพจำให้กับเราได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่ Emily Blunt กับการใส่หน้าที่เป็น Katherine ‘Kitty’ Oppenheimer ภรรยาของ Oppenheimer ที่นอกจากจะควรต้องเก็บสิ่งของอุ้มลูกไปอาศัยอยู่ที่ลอสอขยายอสและสามีแล้ว
คุณยังต้องเผชิญกับความตึงเครียดที่ Oppenheimer ถูกป้ายสีจุดบกพร่องอย่างไม่แฟร์อีกด้วย หรือ Robert Downey Jr. ที่สลัดภาพจำของผู้ชมในหน้าที่ซูเปอร์วีรบุรุษอย่าง Iron Man ไปได้อย่างสะอาด เว็บหนังออนไลน์ 2022 เพื่อถ่ายทอดความทะเยอทะยานและจากนั้นก็หัวหมอเล่ห์เหลี่ยมของ Lewis Strauss ออกมาได้ดีเยี่ยมทั้งเกมชุด ‘Baldur’s Gate’ หรือ ‘Neverwinter Nights’ ซึ่งได้นำชื่อเมืองในเกมกระดานมาใช้อื่นๆอีกมากมาย
ในเวลาที่ทั่วโลกกำลังกล่าวถึงปัญหา Y2K แล้วก็ข่าวซุบซิบว่าโลกบางครั้งอาจจะแตกในวันสิ้นปี ‘ยู กับ มี’ (ใบปอ-ธิต่อว่ายา จิระพรศิลป) ฝาแฝดวัยมัธยมต้นก็เป็นอีกชีวิตที่กำลังตื่นเต้นกับคำทำนาย และกำลังจะพบกับการเคลื่อนไหวของชีวิต ทั้งคู่รักกันมาก สนิทรวมทั้งแชร์ทั้งหมดทุกอย่างร่วมกันตลอดมา จนกระทั่งพูดได้ว่ายูและจากนั้นก็มีเป็นโลกอีกทั้งใบของกันและกัน
คุณกับฉันกับฉัน /You & Me & Me : เล่าราวย้อนอดีตไปในปี 1999
จนถึงวันหนึ่งเมื่อเด็กผู้ชายที่ชื่อ ‘หมาก’ (โทนี่-อันโทนี บุยเซอเรท์) ได้เข้ามาในชีวิต พวกท่านก็เลยได้สัมผัสกับ “รักหนแรก ที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้” ชนวนเล็กๆที่กระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนที่ครั้งใหญ่รวมทั้งท้าทาย ทั้งคู่จะเตรียมการกับความเกี่ยวข้องนี้ แล้วหลังจากนั้นก็ก้าวผ่านในตอนที่งงเต็กบนโลกที่เหมือนหนึ่งว่ากำลังจะแตกลงไปได้ยังไง ผู้ใดคิดภาพไม่ออกว่าเด็กฝรั่งอินกับเกมนี้ขนาดไหนให้คิดภาพเหล่าตัวนำของซีรีส์ ‘Stranger Things’ มาถึง Cillian Murphy
ที่เราต้องขอปรบมือให้กับการแสดงอันเยี่ยมที่สุดของเขา หนัง the covenant ที่พาเราเข้าไปตรวจทุกแง่มุมความรู้สึกของ Oppenheimer ผ่านสีหน้า แววตา แล้วหลังจากนั้นก็น้ำเสียง จนตราบเท่าทำให้เรารู้สึกบีบบังคับรวมถึงเชื่อมโยงไปกับตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของความหมกมุ่นกับการศึกษาเล่าเรียนแล้วก็หาคำตอบในสิ่งที่เขาถูกใจ การพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ยังมีสติสัมปชัญญะท่ามกลางแรงกดดันจากทุกทุกหนทุกแห่ง
ไปตราบจนกระทั่งความหวาดกลัวต่อพลังอำนาจของระเบิดปรมาณูที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้น และความรู้สึกว่าตัวเองผิดที่เขาได้ฆ่าของคนเราเทียวไปเทียวมากมาย จนถึงเอามาสู่การยืนหยัดเพื่อยับยั้งการผลิตระเบิดปรมาณูเพื่อใช้สำหรับเพื่อการทหารของสหรัฐฯที่เล่นเกมนี้กันได้โต้รุ่งหรือกำเนิดเป็นสมาพันธ์ด้านหลังเลิกเรียนมาแล้ว ดังต่อไปนี้เมื่อมาถึงยุคของเกมคอมพิวเตอร์ก็มีหลายต่อหลายเกมที่ใช้เกมกระดานดังที่กล่าวถึงมาแล้วไปต่อยอดออกมา
ซึ่งส่วนหนี่งในความดีของหนังก็บางทีอาจจำเป็นจะต้องยกให้บทหนังเรื่องนี้ที่มี ไรอัน คูกเลอร์ (Ryan Coogler) ที่ปั้นหนังมาตั้งแต่ต้นมาคุมทางเรื่องทั้งเขียนบทและโปรดิวซ์หนังให้ โดยการนำศิลปินอโดนิสออกนอกกรอบเดิมที่กำหนดให้เป็นมรดกของร็อคกี้สู่การสร้างตำนานหนังนักมวยที่จะจำเป็นต้องเจอหน้ากับแต่ก่อนและตั้งคำถามกับจังหวะที่ได้รับในชีวิต ซึ่งถือได้ว่าเป็นทางใหม่ที่น่าสนใจแต่ก็เห็นด้วยว่ามันเต็มไปด้วยการเสี่ยงหลายสิ่งหลายอย่างและข้อสรุปบนจอของมันก็แลเห็นเลยว่ามีหลายแบบที่ด้อยไปกว่าหนังสองภาคก่อนอย่างเห็นได้ชัด
รีวิว The Whale อาการหลงเหลือด้านหลังหนังจบมีจริง
หนึ่งในจุดเด่นของภาพยนตร์ที่ควบคุมโดย ดาเรน อโรนอฟสกี (Darren Aronofsky) เว้นแต่ว่าเรื่องราวของการไถ่บาป แล้วหลังจากนั้นก็พลอตเรื่องที่แทบจะหลุดโลกแล้ว หนังของเขายังมอบโอกาสดาราที่เคยห่างหายจากวงการได้กลับมาเช่นเดียวกันกับตอน ไม่กกี รู้ค (Mickey Rourke) ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ใน ‘The Wrestler’ และกลับมามีงานแสดงเสร็จพวงจากจังหวะดังกล่าวข้างต้น
และใน ‘The Whale’ ก็เป็นอีกครั้งที่หนังได้พา เบรนเเดน เฟรเซอร์ (Brendan Fraser) กลับมาในสปอตไลต์อีกครั้งตอนหลังพบเห็นมรสุมชีวิตคร้้งใหญ่ที่ทำให้ขวัญใจสตรียุค 90s หายไปจากหน้าจอเรื่องราวของหนังเริ่มในปี 1994 หลังจากเหตุใน ‘Bumblebee’ คร่าวๆ 7 ปีในเมืองบรูกลิน นิวยอร์ก เมื่ออดีตสมัยพลทหารเด็กหนุ่มเชื้อสายลาติน โนอาห์ ดิแอซ (Anthony Ramos) ประสงค์ออกไปพบงานทำเพื่อช่วยเหลือแม่ บรีนท้องนา ดิแอซ (Luna Lauren Velez) รวมทั้งน้องชาย คริส ดิแอซ (Dean Scott)
แต่ว่าไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีผู้ใดรับ วันหนึ่ง หนัง the covenant ชะตากรรมพานายกระจอกอย่างเขาให้ไปพบกับ ไม่ราจ (Pete Davidson) รถยนต์ Porsche 964 Carrera RS 3.8 สีเงินคาดแถบสีน้ำเงินสุดเฟี้ยว หนึ่งในหุ่นรบออโตบอตที่กบดานอยู่บนโลก ร่วมกับ ออปว่ากล่าวมัส พนาม์ (Peter Cullen) หุ่นรบหัวรถบรรทุกหัวลาก Freightliner FLA ปี 1987 หัวหน้าของกลุ่ม อาร์ซี (Liza Koshy) หุ่นรบสาวซิ่ง Ducati 916 และตะน้อนบัมเบิลบี Chevrolet Camaro สีเหลือง-ดำคนดีคนเดิม ที่กำลังหาหนทางกลับดาวไซเบอร์ทรอน
รีวิว Creed III ราคาที่ต้องจ่ายเมื่อไร้เงา Rocky
นับตามเวลาถึง 8 ปีแล้วที่โลกภาพยนตร์ได้สบโอกาสต้อนรับ อโดนิส ครีด ศิลปินที่เป็นเช่นเดียวกันกับผู้ที่จะได้รับมรดกมาจากแฟรนไชส์หนังนักมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง ‘Rocky’ ในชื่อสั้นๆว่า ‘Creed’ หลังจากหนัง 2 ภาคแรกเก็บความตื้นตันใจจากแฟนๆของหนังร็อคกี้และเหิมใจผู้ชมยุคสมัยใหม่ด้วยเรื่องราวการปีนเต้าจากนักมวยรองบ่อนสู่แชมป์โลกเดินคู่ร็อคกี้ เว็บดูหนังไทย ออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ดาราในตำนานมาหลอมรวมกันในบทภาพยนตร์ได้อย่างน่าประหลาด
แล้วก็เป็นที่ทราบดีว่า ‘Creed III’ มีการแปลงสองสิ่งใหญ่ๆอย่างแรกเป็นการที่มันจะไม่มีนักแสดงร็อคกี้ของ สิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) อีกต่อไปและจากนั้นก็นี่จะเป็นการขึ้นมาหยั่งท่าทีงานดูแลของ ไมเคิล บี จอร์แดน (Michael B. Jordan) เป็นครั้งแรกพร้อมกับการแสดงในหน้าที่ที่ทำให้เขาโด่งดังในวงกว้าง และก็แน่นอนว่าการเปลี่ยนที่กล่าวมานับว่าเป็นพนันที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อย
สำหรับทั้งสตูดิโออย่างวอร์เนอร์ดิสคัฟเวอรี (Warner Discovery) รวมทั้งตัวจอร์แดนเององก์แรกของหนัง โนแลนต้องการให้ผู้ชมสัมผัสชีวิตของบิดาที่การทำลายอย่างออปเพนไฮเมอร์ที่แตกกระจายทั้งยังในด้านของการเป็นนักฟิสิกส์ผู้มีไหวพริบ เด็กหนุ่มจำนวนมากเสน่ห์และจากนั้นก็นักโทษการเมืองที่กำลังต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม ซึ่งแม้ตัวตน (Persona)ซึ่งควรจะเป็นจังหวะอันดีของบรรดาดาราภาพยนตร์ร่างแคระแกร็นด้วย
และอย่างที่เอ่ยไปทีแรกๆว่าถึงแม้สาวกของเสด็จพ่อโนแลนจะไม่ได้แปลกใจกับความล้ำหน้าของการประสมประสานแนวคิดที่เข้าใจยากสู่ประสบการณ์การดูภาพยนตร์ที่ไม่มีใครเหมือน แต่กับ ‘Oppenheimer’ ก็เหมือนโนแลนได้เอาแนวคิดความเกี่ยวพันของไอน์สไตน์รวมถึงความลื่นไถลไหลของในเวลาที่เคยเกริ่นๆไปใน ‘Interstellar’ ‘Dunkirk’ หรือจนกว่า ‘Tenet’ ผลงานตอนนี้
รีวิว A Haunting in Venice การฆ่าหลอนที่นครเวนิส
อันล้นหลามจะทำให้ผู้ชมรู้สึกงงอยู่บ้างแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่เป็นลายเซ็นการเล่าเรื่องแบบไม่ลำดับเวลาของโนแลนที่เราหลงใหล มิหนำซ้ำการตัดสลับกันตอนด้วยภาพประกายจากการปะทุนิวเคลียร์ยังเป็นเหตุให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงขณะอันตรายและก็น่าตื่นเต้นของออปเพนไฮเมอร์ท่ามกลางบทพูดที่โต้กลับกันอย่างสม่ำเสมอ แต่หนังกลับไกลห่างจากความเหนื่อยหน่ายอย่างสิ้นเชิง
จะกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นหนังภาพสวยอีกเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ ด้วยการจัดแสงไฟและก็การย้อมสีที่ดึงสมัยโบราณมาสู่หน้าจอได้แบบเนียนตา เราจะเห็นบรรยากาศความคลาสสิกของจังหวัดนครพนมในอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่ได้ขายโลเคชันอย่างโจ่งแจ้ง หากแม้เราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเหมือนจริงที่อยู่ในเรื่องถึงโลเคชันในอดีตอะไรบางอย่างบางครั้งอาจจะยังไม่ว่างนี้ หนัง the covenant เอาแนวคิดจิตวิทยาที่เล่ามาตั้งแต่ ‘Memento’ ‘Insomnia’ หรือจนถึง ‘Inception’
แม้กระนั้นบรรยากาศโดยรวมก็สามารถทำให้เราน่าไว้วางใจว่าเรากำลังยืนอยู่ที่จังหวัดนครพนมในปี 1999 จริงๆแล้วก็หากแม้ในบางซีนจะลืมนำความเก่าแก่เยอะแยะลบความใหม่ที่ดันหลุดเข้าไปในยุคนั้นได้อย่างเฉยเมย โดยเฉพาะอะไรเย็นๆหวานๆที่เราในยุคนั้นต่างล้อเลียนเมโลดี้ของเขาว่า อมแล้วดูด ลืมจริงๆใช่ไหมล่ะ อ่ะให้อภัยก็ได้เตรียมพร้อมซื้อตั๋วล่องกอนโดล่าในนครเวนิส
ประการแรก เป็นการที่มันเลือกที่จะทิ้งร็อคกี้แบบเอ่ยถึงเพียงไม่จำนวนกี่ครั้งในหนัง ก็ประหนี่งว่าจะประกาศว่า ‘Creed III’ เป็นการเริ่มแฟรนไชส์ในฐานะหนังนักมวยเรื่องใหม่ที่ไม่อิงจากการบรรลุจุดประสงค์เดิมแล้ว แม้ว่าจะชาญชัยถึงแม้จึงควรยอมรับสารภาพว่าบทร็อคกี้ ในฐานะครูฝึกของหนังเท่าที่ผ่านมามันเป็นสีสันแล้วก็การระลึกถึงความตรึงใจของผู้ชมที่มีต่อตัวร็อคกี้ขณะที่ศิลปิน ลิตเติลดุ๊คของ วูด แฮริส
