ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994)
ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) เป็นภาพยนตร์อนิเมะที่ออกฉายใน คริสต์ศักราช 1994 ของสตูดิโอจิบลิ ควบคุมโดยอิซาโอะ ทากาฮาตะ
กลุ่มคำ ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) ในชื่อภาพยนตร์สื่อถึงเสียงที่ทานูกิตีท้อง มาจากบทกลอนใน คริสต์ศักราช 1919 โดยอูโจ โนงูจิที่เปลี่ยนเป็นเพลงเด็กยอดฮิตในเวลาที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเป็นดนตรีใน คริสต์ศักราช 1925
ชิเงรุ ซูงิอูระ ฮิซาชิ อิโนอูเอะ และก็ชิเงรุ ไม่ซูกิได้รับเครดิตเป็นพนักงานเพิ่ม ผู้ออกแบบทานูกิแล้วก็โยไกหลายตน และก็เรื่องราวเล็กน้อยมาจากผลงานของอีกทั้งสาม
ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994)
เป็นเยี่ยมในผลงานของสตูดิโอจิบลิที่เป็นที่รู้จัก สะดุดตาด้วยเรื่องราวที่ประสมประสานตำนานพื้นเมืองประเทศญี่ปุ่นกับความจริงยุคใหม่ โดยภาพยนตร์นี้เล่าถึงกรุ๊ปทานูกิ (สัตว์ที่เหมือนแร็กคูน) ที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาใกล้เมืองโตเกียว เมื่อมนุษย์เริ่มรุกล้ำเข้ามาเพื่อสร้างเมืองใหม่ ทานูกิกลุ่มนี้ก็เลยต้องหาทางต่อสู้เพื่อคุ้มครองปกป้องรกรากของพวกเขา
ข้อดีของ ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) เป็นการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยจินตนาการแล้วก็ความเฮฮา แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันก็สะท้อนถึงปัญหาสภาพแวดล้อมและก็การขยายตัวของเมืองที่มีผลเสียต่อธรรมชาติได้อย่างถ่องแท้ ภาพยนตร์ใช้ภาพอนิเมชันที่สวยรวมทั้งมีความเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งการนำเสนอวิถีชีวิตรวมทั้งการกระทำของทานูกิที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเพลินใจรวมทั้งตลกโปกฮากับการต่อสู้ที่สวยแม้กระนั้นถึงใจถึงอารมณ์ของพวกเขา
ยิ่งกว่านั้น การใช้เสียงบรรยายรวมทั้งดนตรีประกอบยังช่วยเสริมอารมณ์ของเรื่องราว ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับทานูกิรวมทั้งเข้าใจในเรื่องความเจ็บที่พวกเขาจำเป็นต้องพบเจอเมื่อภูมิลำเนาของพวกเขาถูกทำลายไปโดยเป็นไปไม่ได้เลือก
แม้ว่าจะมีฉากตลกโปกฮารวมทั้งอบอุ่น แต่ว่า “ปอมโปโกะ”
ก็ซ่อนเร้นด้วยความซึมเศร้าและก็เตือนสติถึงผลพวงจากการพัฒนาเมืองอย่างเร็ว การสูญเสียของทานูกิจึงสะท้อนถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างธรรมชาติกับเทคโนโลยีรวมทั้งความก้าวหน้า เป็นภาพยนตร์ที่ให้ข้อคิดเตือนใจรวมทั้งกระตุ้นให้ผู้ชมนึกถึงอนาคตของโลกธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่รักผลงานของสตูดิโอจิบลิหรือถูกใจภาพยนตร์ที่ซ่อนเร้นด้วยปรัชญาและก็ความหมายที่ลึกซึ้ง “ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนปั่นโลก” เป็นภาพยนตร์ที่ไม่สมควรพลาด
Heisei-era Raccoon Dog War Pom Poko หรือ The Raccoon War หรือ Watch Pom Poko แต่ว่าคนส่วนมากจะรู้จักในชื่อ Pom Poko ที่มีชื่อไทยว่า ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนปั่นโลก อนิเมะในความจำของนักเขียนอีกหนึ่งเรื่องเลยก็ว่าได้สำหรับอนิเมะหัวข้อนี้ จากเจ้าเดิมเจ้าเดิมอย่าง สตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ควบคุมโดย คุณครู อิซะโอะ ทะกะฮะตะ เป็นอนิเมะที่แก่อยู่พอควร ที่ออกฉายตั้งแต่ 16 เดือนกรกฎาคม คริสต์ศักราช 1994 ถือได้ว่าเป็นอนิเมะในความจำที่นักเขียนถูกใจมากมายๆเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ กับเรื่องราวความวายป่วงที่เกิดขึ้นในเรื่องราวแล้วก็รวมถึงความท้องนารักของลายเส้นรวมทั้งงานบรรยายไทยที่เป็นเอกลักษณ์
ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) เรื่องย่อเรื่องราวเล่าถึงทานูกิที่อาศัยอยู่ในป่าที่เวลาอยู่นอกสายตาของคนเราแล้วพวกเหล่าทานูกิ ก็จะเปลี่ยนเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งสามารถบอกได้รวมทั้งยืนสองขาคล้ายกับมนุษย์ แต่ว่าแล้ววันหนึ่งก็ได้มีการดายป่ารวมทั้งเทือกเขาขึ้น ก็ทำให้ป่านั้นเบาๆหายไปทีละเล็กละน้อย ก็เลยทำให้พวกทานูกินั้น สู้และก็ช่วยเหลือกันหาวิธีการที่จะเอาป่ากลับมาให้ได้
โดยพวกทานูกิธรรมดาแล้วจะอยู่กันเป็นหลายกรุ๊ป แม้กระนั้นเพื่อร่วมมือกันที่จะเอาป่ากับมานั้น ก็ได้จับกลุ่มกันเป็นกรุ๊ปเดียวแล้วก็คิดแผนกันเพื่อจะเอาชนะแล้วก็ได้ป่าที่สวยสดงดงามคืนมา
ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนปั่นโลกแล้วเหล่าทานูกิก็จึงควรฝึกซ้อมวิชาเปลี่ยนร่างเป็นข้าวของต่างๆและก็เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ก็ด้วย แต่ว่าผลกระทบของการเปลี่ยนร่างก็มีเช่นกันก็เลยทำให้พวกเหล่าทานูกิจำต้องฝึกหัดอย่างมาก แม้กระนั้นก็ไม่ใช่ทานูกิทุกตัวที่จะสามารถเปลี่ยนร่างได้ เมื่อพวกเขาได้ฝึกซ้อมจนกระทั่งพร้อมแล้วเขาก็ได้เริ่มแนวทางทั้งยังกลยุทธ์เล็กกลยุทธ์ใหญ่ แล้วก็ใช้หลายแนวทางตั้งแต่แปลงร่างเป็นผีไปหลอกคนภายในเมืองหรือจะมีผลให้ตายเลยก็มี
โดยประเด็นนี้จะเล่าราวเริ่มขึ้นในตอนปี 60
สมัยโชวะ ตอนสมัยที่เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุด ทำให้มนุษย์นั้นอยากขยายถิ่นที่อยู่กันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พื้นที่แถบเทือกเขาเบาๆถูกกลายเป็นโครงเมืองใหม่ “ทามะ” อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วกว่าความรุ่งโรจน์ของผู้คนจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนกับป่าดงธรรมชาติที่หายไปทุกวี่ทุกวันๆเพราะฉะนั้นเหล่าทานูกิในแถบเขาทามะจำต้องจัดการกับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น เมื่อสิ่งก่อสร้างต่างๆเข้ามาแทนสถานที่ที่พวกเขาเคยพักอาศัย ของกินก็เริ่มต่ำลง
จนถึงทำให้พวกเขาจะต้องมาเปลี่ยนแปลงเพื่อเอาชีวิตรอดแทน เหล่าทานูกิอาวุโสถึงกับขนาดจำเป็นต้องเรียกสัมมนาหาลือกัน ทั้งยังด้วยกันคิดแผนแผนการ 5 ปีด้านหน้าเกี่ยวกับประเด็นนี้เพื่อหาแนวทางต่อกรสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งในหัวข้อนี้ผู้ชมจะได้มองเห็นถึงความนึกคิดที่แตกต่างระหว่างคนรุ่นหลังรวมทั้งคนรุ่นก่อนสำหรับในการต่อกรสิ่งที่เกิดขึ้น นักแสดงหลักจะมีกอนตะทานูกิผู้ถูกใจใช้แนวทางร้ายแรงมีความรู้สึกว่าการต่อสู้ให้หักกันไปข้างหนึ่งเป็นแนวทางที่เยี่ยมที่สุด ผู้เฒ่าทสึรุกาเม ทานูกิอาวุโส
ที่เป็นที่น่ายำเกรงในเหล่าทานูกิ รอแนะนำตามหลังคนแก่กว่าที่จะมาจากเมืองอื่น และก็โชกิชิทานูกิแบบใหม่ผู้ใช้แนวทางกลายร่างไปหลอกมนุษย์ แล้วแนวทางไหนล่ะที่จะทำให้เหล่าทานูกินั้นอยู่รอดในสังคมที่กำลังเปลี่ยน ทุกคนจะต้องทดลองไปรับดูมองนะคะ รับประกันว่าจะได้ทั้งยังความสนุกสนานร่าเริงรวมทั้งข้อคิดเตือนใจมากมายก่ายกองจากหัวข้อนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ผลสรุปการต่อสู้ของเหล่าทานูกิจะเป็นไปในแนวทางไหน? พวกเขาจะดำรงชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเช่นไร? ติดตามการต่อสู้เพื่อท้องไร่ ต้นไม้ แล้วก็ป่า ของเหล่าทานูธุระอมรับประทานจุ ผู้แสนร่าเริงอยู่เป็นประจำ กลุ่มนี้กันได้ใน ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) อีกหนึ่งผลงานอนิเมชั่นดีๆจากจังหวัดสตูลดิโอจิบลิที่ทุกคนไม่สมควรพลาด…
เรื่องย่อ เรื่องราวเกิดขึ้นในตอนปี คริสต์ศักราช 1960-1969
ในประเทศญี่ปุ่น ฝูงตัวทานุกิ (หรือ “สุนัขแร็คคูน” ของประเทศญี่ปุ่น) ถูกรุกรานจากการขยายที่ดินสำหรับทำมาหากินแถบเนินทามะ, เฉลียงกรุงเมืองโตเกียว โดยมนุษย์ ซึ่งจำเป็นต้องตัดต้นไม้ที่เป็นเสมือนบ้านแล้วก็ใช้พื้นที่ร่วมกับพวกมัน การก่อสร้างดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งช่วงต้นของสมัย 90s ได้ผลสำเร็จให้พื้นที่อาศัยรวมทั้งของกินลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ ฝูงทานุกิเริ่มที่จะต่อสู้เพื่อรักษาบ้านของพวกมันเองไว้ พวกมันก็เลยตกลงใจที่จะทำการต้านทานมนุษย์ โดยใช้ความรู้ที่มีอยู่ เป็นการกลายร่าง แล้วก็หยุดการพัฒนาที่ดินพวกนั้น แต่ว่าไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะฉะนั้นพวกมันก็เลยทำความเข้าใจที่จะดำรงชีวิตร่วมกับมนุษย์อย่างสงบ
1 ซีน (Scene)เป็น“ฉาก”
กล่าวถึงเรื่องของฉาก / เป็นอนิเมะที่มีความเป็นตัวตนของคุณครู อิซะโอะ ทะกะฮะตะ สูงมากมายๆกับเรื่องราวที่จะต้องกล่าวว่ามีความเป็นแถวให้แง้คิดหน่อยๆธีมข้างหลังที่อนิเมะให้มานั้นก็เป็นธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์บริบูรณ์เต็มไปด้วยผู้คนรวมทั้งเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ การเล่าธีมข้างหลังหัวข้อนี้นับว่าทำเป็นดีเยี่ยมๆถึงแม้อนิเมะจะแบ่งประเภทและชนิดเอาไว้ภายในเรท PG13+ แต่ว่าเอาเข้าจริงๆเป็นภาพยนตร์ที่เด็กบางทีก็อาจจะดูแล้วมิได้รู้สึกถูกใจ
เพราะเหตุว่ารายละเอียดมันมิได้ออกมามาให้เด็กรู้เรื่อง แต่ว่าในส่วนหนึ่งส่วนใดนั้นจะว่าก็ว่าได้เด็กที่ชอบใจส่วนหนึ่งส่วนใดก็บางครั้งก็อาจจะมาจากลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ ของคุณครูอิซะโอะ ทะกะฮะตะ ก็เป็นไปได้ ในส่วยของธีมข้างหลังพวกเราจะได้เป็นความวายป่วงเบาๆมากขึ้นที่ละนิดการทำลายธรรมชาติสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆแล้วก็อนิเมะก็เล่ามันออกมาได้อย่างเห็นได้ชัดมากมายๆอย่างไม่อาย ธีมหลักพวกเราจะได้มองเห็นเรื่องราวความเป็นไปเป็นมาของกลุ่มตัวป่วนอย่างพวกทานูกิ ออกมาสร้างความเพลิดเพลินในลักษณะของอนิเมะเด็กไม่มีผิดเพี้ยนรวมทั้งเป็นไปเป็นมาตามสูตรสำเร็จ
ต่อจากการนำเสนอภาพรวม
ของ ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์นี้มีเอกลักษณ์เป็นขั้นตอนการเล่าที่ซ่อนเร้นด้วยเครื่องหมายแล้วก็การเปรียบเทียบเปรยๆถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างมนุษย์แล้วก็ธรรมชาติ ในรูปภาพยนตร์ ทานูกิสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆได้ ซึ่งเป็นอีกทั้งส่วนประกอบที่สร้างความสนุกให้กับเรื่องราวแล้วก็สะท้อนถึงความเพียรพยายามสำหรับการปรับนิสัยของธรรมชาติเพื่อต่อสู้กับการคุกคามจากมนุษย์
แต่ว่าหากแม้ทานูกิจะมีความรู้และความเข้าใจสำหรับในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างรวมทั้งสร้างความอัศจรรย์ต่างๆเรื่องราวกลับพรีเซ็นท์เรื่องจริงที่ว่า ธรรมชาติไม่สามารถที่จะเอาชนะพลังของการพัฒนาเมืองได้ ภาพยนตร์บ่งบอกถึงถึงความแพ้พ่ายของทานูกิเมื่อเมืองโตเกียวขยายตัวถัดไป รวมทั้งการทำลายป่าดงรวมทั้งที่พักที่อาศัยของพวกเขา แปลงเป็นเครื่องหมายของการสิ้นไปที่แทบจะหลบหลีกมิได้ในสังคมที่มุ่งหน้าสู่ความเจริญรุ่งเรือง
เงื่อนทางอารมณ์ของภาพยนตร์ก็เลยไม่ตรงกันระหว่างความเฮฮาแล้วก็ความกลัดกลุ้ม ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกประสมประสานอีกทั้งความสำราญ ความระลึกถึง และก็ความหมดกำลังใจสำหรับการเพียรพยายามป้องกันของที่ล้ำค่า ภาพยนตร์ประเด็นนี้ยังเสนอคำถามเกี่ยวกับอนาคตของธรรมชาติและก็ความสมดุลระหว่างการพัฒนาและก็การอนุรักษ์และรักษา โดยไม่บอกให้ผู้ชมมองเห็นคำตอบที่กระจ่างแจ้ง แม้กระนั้นกระตุ้นให้นึกถึงช่องทางของคนเราสำหรับในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
“ปอมโปโกะ” ก็เลยได้ผลงานที่มิได้เพียงสร้างความเพลิดเพลิน แม้กระนั้นยังเป็นงานศิลปะที่สะท้อนสังคมและก็โลกที่กำลังเปลี่ยนอย่างเร็ว เหมาะกับผู้ชมที่ถูกใจภาพยนตร์ที่มีชั้นความหมายลึกซึ้ง
จัดเป็นอนิเมชั่นซึ่งสามารถปลูกฝังเรื่องราวให้เด็กๆ
หรือแม้กระทั้งคนแก่ฉุกคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจุบันก้าวหน้า สำหรับเรื่องราวความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ ซึ่งล้วนแต่ส่งผลมาจากความประพฤติรวมทั้งสิ่งที่จำเป็นของคนเรา โดยการเล่าเรื่องราวมีความธรรมดา ทั้งซ่อนเร้นข้อคิดเตือนใจให้พวกเราได้หันมามองดูการกระทำของคนต่อเหล่าสิงมีชีวิตอื่นๆที่เกิดขึ้น ที่หากแม้โดยรวมนั้นจะมิได้สิ้นสุดลงด้วยดี แต่ว่าการเล่าเรื่องก็มิได้พาให้ผู้ชมรู้สึกดราม่านัก ตรงกันข้าม… ในเรื่องได้มีใส่เเทเกลื่อนกลาดความน่ารักน่าเอ็นดูของเหล่าทานูกิให้ผู้ชมได้ทราบสึกยิ้มไปจนถึงตลอดเรื่องตามสไตล์จิบลิเหมือนปกติ
สำหรับหัวข้อนี้นักเขียนให้ 10 เต็ม 10 ไปเลยรัวๆค่า เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องการที่จะให้ทุกคนได้มองจริงๆคนเขียนถูกใจแนวความคิดที่แทรกสอดแต่ว่าซ่อนเร้นไปนัยๆไม่ว่าจะเป็นการบอกถึงการคืบคานเข้ากลืนชีวิตที่เรียบง่ายของทานูกิ รวมทั้งการล่มสลายวัฒนธรรมหลายๆอย่างของเขตแดนที่ต้องหายไปกับการความก้าวหน้าที่เข้ามา หรือแนวความคิดแทรกสอดเชิญอย่างให้หันมารักธรรมชาติกันมากเพิ่มขึ้น
ถ้าหากทุกคนมองใกล้จะจบพวกเราจะมองเห็นฉากที่น่าโศกเศร้าใจที่สุด
เป็นฉากที่เหล่าทานูกิต่างแปลงกายเป็นปีศาจร้ายไปหลอกมนุษย์ แต่ว่ามนุษย์กลับดูเกิดเรื่องเฮฮา แล้วนักลงทุนฉลาดต่างก็จะมาใช้ประโยชน์จากเรื่องความศรัทธานี้เพื่อไปรายได้ ในขณะที่เรื่องความเลื่อมใสนี้เล่ากันมาเพื่อสอนให้มนุษย์แบบใหม่ๆรู้จักบาปไม่ถูกถูกใจเลวดีจริงๆส่วนเรื่องภาพ กราฟิก จัดว่าทำออกมาได้ดีมากเลยเชียวในสมัยนั้น สร้างออกมาให้เด็กมองได้ คนแก่ดูดีจริงๆ
เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในประเทศชั้น 1 ใน คริสต์ศักราช 1994 โดยมีรายได้จากการจำหน่ายถึง ¥2.63 พันล้าน และก็รายได้จากบอกซ์สำนักงานถึง ¥4.47 พันล้านทำให้เปลี่ยนเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่มีรายได้สูงเป็นชั้น 2 ของปีนั้น ด้อยกว่าเพียงแค่เดอะไลอ้อนคิง
ส่วนในรอคอยตเทนโทมันข้นส์ ภาพยนตร์ได้รับเรตท้วงติงสารภาพถึง 86% จากรีวิว 14 อัน ภาพยนตร์นี้ได้รับเลิอกเป็นภาพยนตร์ประเทศญี่ปุ่นเข้าชิงในรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์นานาประเทศเยี่ยมยอดปีนั้น แล้วก็ชนะรางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันดีเด่นในรางวัลภาพยนตร์ไมนิจิครั้งที่ 49
การเดินเรื่องใน “ปอมโปโกะ ทานูกิปั่นป่วนโลก” นั้นยังมีความแปลกใหม่ในแนวทางการเสนอ ที่ทำให้เรื่องราวมีมิตินานาประการ ทั้งยังการประสมประสานระหว่างตำนานประจำถิ่นประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับทานูกิที่เป็นสัตว์ยอดเยี่ยมในความเลื่อมใส กับการสะท้อนถึงข้อเท็จจริงที่เหี้ยมโหดในสังคมยุคใหม่ เรื่องราวก็เลยมิได้เป็นแค่เพียงการต่อสู้ของทานูกิรวมทั้งมนุษย์ แต่ว่ายังเป็นการสะท้อนถึงความเคลื่อนไหวของสังคมประเทศญี่ปุ่นข้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีการปรับปรุงเมืองอย่างเร็ว ทำให้พื้นที่ธรรมชาติถูกทำลายอย่างมากมาย
ภาพยนตร์ยังแอบแฝงข้อคิดเตือนใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตของผู้คนและก็ธรรมชาติที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งของเมืองสะท้อนถึงความโลภละโมบรวมทั้งการไม่สนใจผลพวงต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งทำให้สัตว์ป่าอย่างทานูกิจำเป็นต้องพบเจอกับการสูญเสียภูมิลำเนา สถานะการณ์นี้สามารถสะท้อนถึงปัญหาทั้งโลกเกี่ยวกับการทำลายธรรมชาติเพื่อการขยายตัวของเมืองและก็อุตสาหกรรมอย่างไม่จีรัง sopadvert
ความซาบซึ้งอีกอย่างหนึ่งของผู้ชมเป็นการที่ทานูกิในเรื่องอุตสาหะปรับพฤติกรรมให้กับโลกมนุษย์ในแบบต่างๆทั้งยังการกลายร่างเป็นมนุษย์เพื่อดำรงชีวิตในเมืองหรือสร้างภาพมายาเพื่อคดโกงมนุษย์ แม้กระนั้นสุดท้าย พวกเขากลับได้มาพบว่าการปรับตัวไม่สามารถที่จะช่วยพวกเขาได้ในระยะยาว การสูญเสียที่ดินและก็ที่พักที่อาศัยของทานูกิเป็นการเตือนให้พวกเราตระหนักถึงจุดสำคัญของการดูแลรักษาสมดุลระหว่างธรรมชาติและก็การพัฒนา
ด้วยเหตุนั้น “ปอมโปโกะ” ก็เลยไม่ใช่แค่เรื่องราวที่ครึกครื้นสำหรับเด็กๆเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังเป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยแง่คิดด้านสังคมรวมทั้งสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผู้ชมทุกวัยได้คิดถึงผลพวงจากการกระทำที่เกิดขึ้นมาจากฝีมือของคนที่มีต่อโลกธรรมชาติ